ภูเขาโปปา (Mount Popa) กับ มหาคีรีนัต แห่งพุกาม
อีกหนึ่งความอลังการงานสร้างในเมืองพุกามที่พลาดไม่ได้เลย
นอกจากการเยี่ยมเยือนทุ่งทะเลเจดีย์นั้น
ยังมีความเด็ดสุดยอดของที่เที่ยวในเมืองพุกามที่ต้องบอกเลยว่า
มาถึงพุกามแล้วต้องมาที่นี่ให้ได้
ที่นี่แหละครับที่เราจะนำเสนอเพื่อนๆในการเดินทางไปเที่ยวเมืองพุกามครับ
ภูเขาโปปา เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วที่มีความสูงประมาณ 4981 ฟุต อยู่ห่างจากเมืองพุกามไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ประมาณ 50 กิโลเมตรครับ ภูเขามีความสูงมากๆและบนยอดเขาโปปานั้นก็ยังเป็นที่ตั้งของ "วัดตุง
คาลัท" (Taung Kalat Temple) วัดพุทธที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองพุกามอีกด้วย
เราจะเห็นยอดเจดีย์เหลืองอร่ามตั้งอยู่บนยอดเขาเวลามองในระยไกลๆครับ
ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่ง
ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความสวยงามที่หาชมได้ยากบนเขาโปปาแห่งนี้
รวมถึงเหล่านักศรัทธาในพระพุทธศาสนาทั้งหลายอีกด้วยครับ ตามความเชื่อดั้งเดิมของประชาชนชาวพม่านั้นเชื่อกันว่าภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่สิงสถิตของบรรดาเทวดาและนัตทั้งหลายนั่นเองครับ
เขาโปปา (Mount Popa) ชื่อนี้มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤตแปลว่าดอกจำปาครับ
เนื่องจากในอดีตบริเวณภูเขาลูกนี้ เคยมีต้นจำปาขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก
หรือเรียกอีกชื่อว่า “ภูเขาดอกจำปา” ก็ได้ครับ
กล่าวจะมาเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์
ภูเขาโปปา ถูกกล่าวถึงในบันทึกประวัติศาสตร์พม่าตั้งแต่ในยุคของการเลือกตำแหน่งสร้างอาณาจักรพุกามนั่นเองครับ
ว่า อดีตภูเขาไฟแห่งนี้เป็นเสมือน เขาพระสุเมรุ ศูนย์กลางแห่งจักรวาล
และเชื่อว่าเป็นที่สถิตของเหล่า “นัต” หรือที่คนพม่าเรียกว่า “มินนัต” คือ วิญญาณ ภูตผี จากผู้ที่เสียชีวิตด้วยการถูกฆ่านั่นเอง
หรือถูกทรมานด้วยวิธีต่างๆ ดวงวิญญาณจึงไม่ไปสู่สุคติ
มีทั้งคนธรรมดาและผู้ที่มียศศักดิ์ไปจนถึงกษัตริย์ด้วย
บ่อยครั้งปรากฏกายแสดงอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ
กลายเป็นที่เกรงกลัวของชาวบ้านจึงมีการตั้งศาล และนำรูปปั้นเหมือนจริงตั้งไว้ให้คนกราบไหว้บูชา
โดยถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยปกป้องดูแลบ้านเมือง
และยังสามารถขอในสิ่งที่ต้องการได้อีกด้วย
ซึ่งรูปปั้นนัตแต่ละตนนั้นจะสวมเสื้อผ้าสวยงาม
บางตนนั่งอยู่บนสัตว์ต่างๆ เช่น เสือ หงส์ และม้า บางตนก็ถืออาวุธ
แตกต่างกันไปตามเรื่องราวที่ได้รับการกล่าวขาน
ตัวอย่างนัตซึ่งหลายคนนิยมกราบไหว้ คือ นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ
เหมาะสำหรับคนใจร้อนอยากได้โชคลาภแบบทันใจนั่นเองครับ
เมื่อพระเจ้าอโนรธามังช่อ
แห่งราชวงศ์พุกาม นำศาสนาพุทธนิกายเถรวาทจากมอญเข้าสู่พม่า
ความเชื่อเรื่องนัตจึงถูกผสมผสานเข้ากับศาสนาพุทธ
นัตจึงถูกยกระดับให้เป็นนัตหลวง โดยพระองค์ได้ทำการตั้งศาลนัตหลวงขึ้นที่เขาโปปาแห่งนี้
หรือเรียกว่า “มหาคีรีนัต” มีทั้งหมด 37 องค์
ขอบคุณบทความดีๆจาก travel.mthai.com
สำหรับเรื่องราวความเป็นมาของภูเขาโปปาแห่งนี้ครับ
|
นักแสวงบุญมากมายต่างเดินทางมาที่นี่เพื่อสัก สักการ
บูชาบรรดานัตทั้งหลายในช่วงคืนพระจันทร์เต็มดวง คือ ช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน
และช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม ช่วงนี่ถือเป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากๆ
ครับ
ภูมิทัศน์โดยรอบภูเขาไฟโปปา เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุและลำธารเล็กๆ ราว 200
แห่ง
นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าขึ้นไปตามทางเดินขั้นบันไดที่มีมากถึง 777 ขั้น
และจากยอดเขานักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองพุกามและแม่น้ำอิระวดีได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
เมื่อมองด้วยสายตาแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครสักคนมาสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาที่สูงได้ขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่พลังแห่งศรัทธาที่แรงกล้าจริงๆครับ
และคงจะเป็นไปไม่ได้อีกเหมือนกันถ้าจะไม่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สุดยอดแบบนี้แก่เพื่อนๆนักเที่ยว
อย่าได้พลาดโอกาสที่จะมาเยือนที่นี่อย่างเด็ดขาดครับ เมื่อเพื่อนๆได้มาเหยียบแผ่นดินพุกาม
0 ความคิดเห็น: