เจดีย์กาบาเอ (KaBa Aye Pagoda) กรุงย่างกุ้ง สันติภาพสู่พม่า
สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงย่างกุ้ง
ประเทศเมียนมาร์ หรือพม่านั้น ยังมีอีกมากมาย
รอให้เหล่าเพื่อนๆนักเที่ยวได้เดินทาไปสัมผัสครับ กรุงย่างกุ้งเองนั้นก็ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกันไปแล้วครับ
ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและน่าอัศจรรย์
อีกหนึ่งที่เที่ยวในกรุงย่างกุ้งที่เรานำมาฝากเพื่อนๆกันในวันนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากแนะนำอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจไม่น้อยครับ
เจดีย์กาบาเอ (KaBa Aye Pagoda) ชื่อนี้เคยได้ยินกันไหมครับ...?
แต่สำหรับนักเที่ยวหลายคนก็คงคุ้นหูกันอยู่ไม่น้อย ที่นี่แหละครับที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้
พระเจดีย์กาบาเอ (Kaba Aye pagoda) เมืองย่างกุ้ง
ประเทศพม่า เป็นเจดีย์ทรงกลมครับ ซึ่งมีทางเข้าทั้งหมดห้าด้านด้วยกัน นายอูนุนายกคนแรกของพม่า
ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎกนั่นเองครับ
ลองสังเกตให้ดีนั้นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ล่ะแห่งในพม่า จะมีความเกี่ยวข้องทางพระพุทธศาสนาทั้งนั้นครับ
ที่นี่ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งครับ
เจดีย์กาบาเอ ถ้ามองดูแล้วก็ดูแปลกตาและมีความสวยงามเป็นอย่างมากครับ
โดยเฉพาะด้านใน ส่วนคำว่า กาบาเอ ในภาษาพม่านั้น หมายถึง โลกแห่งสันติสุข ครับ ที่นี่ได้ถูกสร้างขึ้นในปี
1952 เจดีย์แห่งนี้เป็นที่รำลึกถึงการประชุมประสภาสงฆ์ระดับโลก ครั้งที่ 6
เพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่ชาวโลกของพุทธศาสนา
ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในปี 1954 หลังจากพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษนั่นเอง
ตำนานการสร้างพระเจดีย์กาบาเอ มีเรื่องเล่าสืบต่อมาว่า...
ในครั้งโบราณกาลมีพระภิกษุอยู่รูปหนึ่งนั่งสมาธิ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี ต่อมามีชีปะขาวผู้หนึ่งนำลำไม้ไผ่ที่มีข้อความ จารึกอยู่เต็มไปหมดมามอบให้แก่พระภิกษุฝากไปมอบต่อท่านอุนูและบอกให้ท่านอุนู ทำนุบำรุงศาสนาพุทธให้เจริญและมั่งคงยิ่งๆขึ้นไป ท่านอุนูเป็นบุคคลที่เคร่งครัดในศาสนาพุทธพอๆกับที่ท่านรอบรู้ในเรื่องการ เมือง ท่านรับไม้ไผ่ลำนั้นไว้และปฏิบัติตามคำบอกของชีปะขาวผู้นั้น โดยการสร้างพระ เจดีย์กาบาเอขึ้นทางตอนเหนือของนครย่างกุ้งห่างกันประมาณ 15 กิโลเมตร เพื่อเตรียมการทำสังคายนาพระไตรปิฏกในปี ค.ศ. 1954 – 1956 และอุทิศพระเจดีย์องค์นี้เพื่อให้เกิดการสร้างสันติภาพขึ้นในโลกและในประเทศพม่านั่นเอง
ในครั้งโบราณกาลมีพระภิกษุอยู่รูปหนึ่งนั่งสมาธิ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี ต่อมามีชีปะขาวผู้หนึ่งนำลำไม้ไผ่ที่มีข้อความ จารึกอยู่เต็มไปหมดมามอบให้แก่พระภิกษุฝากไปมอบต่อท่านอุนูและบอกให้ท่านอุนู ทำนุบำรุงศาสนาพุทธให้เจริญและมั่งคงยิ่งๆขึ้นไป ท่านอุนูเป็นบุคคลที่เคร่งครัดในศาสนาพุทธพอๆกับที่ท่านรอบรู้ในเรื่องการ เมือง ท่านรับไม้ไผ่ลำนั้นไว้และปฏิบัติตามคำบอกของชีปะขาวผู้นั้น โดยการสร้างพระ เจดีย์กาบาเอขึ้นทางตอนเหนือของนครย่างกุ้งห่างกันประมาณ 15 กิโลเมตร เพื่อเตรียมการทำสังคายนาพระไตรปิฏกในปี ค.ศ. 1954 – 1956 และอุทิศพระเจดีย์องค์นี้เพื่อให้เกิดการสร้างสันติภาพขึ้นในโลกและในประเทศพม่านั่นเอง
พระเจดีย์กาบาเอแม้จะไม่สวยงามโดดเด่นเช่นพระเจดีย์องค์อื่นในนครย่างกุ้ง
แต่พระเจดีย์กาบาเอก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ
ลักษณะของเจดีย์เป็นรูปทรงกลมมีความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลางคือ 34 เมตร
ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ มีพระอรหันต์สาวกองค์สำคัญสององค์ พระเจดีย์กาบาเอนั้นมีทางเข้าทั้งหมดห้าด้าน
ทุกด้านมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนฐานทักษิณ
มีพระพุทธรูปหุ้มด้วยทองคำองค์เล็กๆอีก 28 องค์ แทนอดีตสาวกของพระพุทธเจ้าทั้ง 28 องค์ ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้
ส่วนพระพุทธรูปองค์พระประธานที่อยู่ข้างในหล่อด้วยเงินบริสุทธิ์มีน้ำหนัก กว่า 500
กิโลกรัมครับ
พอมาถึงบริเวณเจดีย์กาบาเอ เราต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า ถุงน่อง
เราถึงเดินเข้าวัดได้ เพราะที่นี่เขาไม่ให้สวมใส่ของพวกนี้เข้าไปนั่นเองครับ
เมื่อเราเดินเข้าไปเพื่อนๆก็จะเห็นชาวพม่าเขาเดินมาเที่ยวชม
สักการบูชา เขาก็ไม่ใส่รองเท้าครับ (แต่จะทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆที่ไม่ชินร้อนเท้านั่นเองครับ)
แต่พอเข้าไปความร้อนก็หายไปหมดเพราะข้างในสวยงามมากๆ ครับ เห็นสีทองเลืองอร่าม
และมีพระชาวพม่านั่งสวดมนต์อยู่หลายองค์เลยที่เดียว
อีกทั้งมีพระพุทธรูปสวยงามสง่ามากมาย เหนือคำจะบรรยายจริงๆครับ ต้องลองไปชมันเองครับ ถึงจะรู้
..อ๋อ..เกือบลืมบอกไปครับ ที่เมื่อเดินเข้าไปด้านในแล้วเย็นๆนั้น ด้านในของที่นี้เขามีการเปิดแอร์ให้นักท่องเที่ยวที่เขามาชมนั่นเองครับ
และสามารถจุดธูปเทียนด้านในได้เลย
เรียกว่าทุ่มทุนสร้างกันจริงๆ
ส่วนด้านนอกนั้นก็มีบริการขายดอกไม้ธูปเทียนครับ ชาวบ้านเขานำมาขาย ชาวบ้านที่นี่เองก็สามารถพูดไทยได้ด้วยครับ
ราคาก็อยู่ประมาณที่ 500-600 จ๊าต เป็นเงินไทยก็ประมาณยี่สิบกว่าบาท แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยน
ณ. วันนั้นๆ ครับ
เจดีย์กาบาเอ (KaBa Aye Pagoda) นั้นตั้งอยู่ที่ถนนกาบาเอ
เมืองย่างกุ้ง เป็นอีกที่เที่ยวในพม่าที่เรานำมาฝากกันครับ
ลองไปเที่ยวที่นี่กันดูครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก dooasia.com
0 ความคิดเห็น: