เจดีย์จ๊อกตอจี : มัณฑะเลย์
เมื่อมาเที่ยวพม่าของใครหลายๆคน ก็ดูเหมือนว่าอะไรๆก็น่าชมไปหมดทุกที่ ก็ของเก่าที่นี่เขาเยอะจริงๆครับ
แถมยังมีการบูรณะ ดูแลเป็นอย่างดี เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชม
ได้ชมกันแบบจุใจ ถ้าไม่เอ๋ยถึงความศรัทธาทางพระพุทธศาสนาแล้ว
ว่าเอาก็แต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมล้วนๆ ก็เรียกว่าสุดยอดแล้วครับ
เมื่อเพื่อนๆเดินทางมาเที่ยวพม่าทั้งที
ก็อยากฝากสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ที่น่าประทับใจ
จะเรียกว่าเที่ยวเอาบุญก็ได้นะครับ เพราะสถานท่องเที่ยวในพม่าที่จะแนะนำกันในบทความนี้ก็คือ
เจดีย์จ๊อกตอจี ใน มัณฑะเลย์ นั่นเองครับ
ฟังชื่อแล้วก็อาจจะแปลกๆหูไปหน่อย
บางท่านก็อาจจะตลกด้วยซ้ำ อาจจะบอกว่า เอ๊...อะไรนี่..จ๊อกตอจี...?
แต่อย่าเพิ่งทำหน้าแปลกใจนะครับ เพราะเที่ยวพม่าวันนี้เราขอเสิร์ฟประวัติของเจดีย์แห่งนี้
เพื่อเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆ เป็นสีสันของการเดินทางนั่นเองครับ
เจดีย์จ๊อกตอจี นั้นถูกสร้างขึ้นตามแบบวัดอนันดาของเมืองพุกามนั่นเองครับ รอบ ๆ เจดีย์มีนรสิงห์ หรือสัตว์ครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงห์ทั้งหมดจำนวน 12 ตน และเอกลักษณ์อีกอย่างของที่นี่ก็คือ ลายภาพเขียน แบบเฟรสโก ที่ปรากฏอยู่ในพระเจดีย์นั่นเอง ภาพเหล่านี้นั้น เขียนเล่าพุทธประวัติและวิถีชีวิตชาวพม่าในสมัยก่อน ซึ่งภาพเหล่านี้ก็ยังคงงดงามอยู่ได้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปีแล้วก็ตาม เรียกได้ว่ามาชมของเก่าตั้งเป็นร้อยปี ยังไงก็คุ้มครับ ส่วนภายในอาณาเขตของพระเจดีย์นี้ก็มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ขนาดความยาวทั้งสิ้นประมาณ 70 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในประเทศพม่าก็ว่าได้ครับ พระพุทธรูปนี้สร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2450 และมีการปฏิสังขรณ์ใหม่ครั้งใหญ่ในปีพ.ศ. 2509 นั่นเองครับ
อ๋อ...เกือบลืมไปอย่างครับ พระประธานวัดนี้โปรดฯให้สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่สามารถชลอหรือย้ายมาได้จากเมืองสะกายนั่นเองครับ
ซึ่งต้องใช้กำลังคนนับหมื่นกันเลยทีเดียว ใช้เวลาล่องมาตามแม่น้ำเอยาวดีถึง 13 วันกันเลย และสร้างสำเร็จในปี 2408 แล้วถวายพระนามว่า “พระมหาสากยมารชิน” และยังโปรดฯให้สลักพระอริยสาวก 80 องค์จากหินอ่อนสีขาว
ประดิษฐานเหมือนบริวารโดยรอบอีกด้วยครับ
เป็นยังไงบ้างครับ
กว่าจะมาเป็น เจดีย์จ๊อกตอจี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในมัณฑะเลย์
ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน จากประวัติแล้ว ฟังดู แสนยากลำบากจริงๆ
สวยงามแถมสร้างลำบากขนาดนี้ ยังไงซะ ก็อย่าลืมเก็บภาพสวยๆ
เอาไว้ด้วยนะครับ เผื่อไว้เป็นความทรงจำที่ได้มาเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า
นั่นเองครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับประวัติ เจดีย์จ๊อกตอจี แห่งนี้จาก newviewtour.com
ครับ
0 ความคิดเห็น: